สูตรและวิธีทำสบู่จันทร์เทศผสมรำข้าวหอมมะลิแดง MAC
Nutmeg handmade soap
ทำสบู่ได้ประมาณ 1400 กรัม
ทำสบู่ได้ประมาณ 1400 กรัม
****การเตรียม สารละลาย NaOH 50 % (w/w) ใช้ในการทำสบู่
NaOH 50% density (ความหนาแน่น) ประมาณ 0.76
- ตวงน้ำ 100 มิลลิลิตร(มล.)หรือ 100กรัม ใส่ภาชนะพลาสติกหนา หรือ แก้ว
- ชั่ง โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) 100 กรัม
ค่อยๆเทลงในน้ำที่เตรียมไว้
คนช้าด้วยแท่งแก้ว หรือ
ไม้พายเล็ก จนละลายหมด ทิ้งให้เย็น เก็บใส่ขวดพลาสติกชนิดขุ่น
และหนา ห้ามใช้ขวด น้ำชนิดใส เช่น
ขวดน้ำดื่ม หรือขวดน้ำผลไม้ ถ้าไม่มีใช้ ขวดแก้วได้
เขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้ง
ช่วงนี้จะมีความร้อน และไอด่าง ควรเตรียมในที่โล่ง ใส่แว่น และ
ถุงมือ
ถ้าสัมผัสกับด่างให้ล้างด้วยน้ำสะอาดมากๆรายละเอียดเพิ่มเติม
A.วัตถุดิบและอุปกรณ์
น้ำมันปาล์ม 520 มล.
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 160 มล.
น้ำมันมะกอก 80 มล.
น้ำมันแมคคาเดเมีย 60 มล.
น้ำมันรำข้าวผสมจมูกข้าว 120 มล.
เชียร์ บัตเตอร์ 100 กรัม
กรด ลอลิก(lauric acid) 4 ชต.
50 %
NaOH 160 มล. + น้ำดื่ม 140 มล.
Lemon oil 100 %
2 ชช.
สีโอรส
สีเขียว
สมุนไพร
ผงรำข้าวหอมมะลิแดง 3
ชต.
ผงจันทร์เทศ 3 ชต.
ผงข้าวกล้องหอมมะลิ 3 ชต.
หม้อสแตนเลส
ทัพพีสแตนเลส
ถ้วยแบ่งพลาสติก
พิมพ์สบู่ซิลิโคน สปันจ์ ไอเดีย ไม้จิ้มลูกชิ้น
ตะกร้าสานโปร่ง 8 ซม.,เชือกใบบัว ใบโพธิ์ใหญ่
ตะกร้าสานโปร่ง 8 ซม.,เชือกใบบัว ใบโพธิ์ใหญ่
B. วิธีทำ
1.ผสมน้ำมันทุกชนิด, lauric acid , เชียร์
บัตเตอร์ ลงในหม้อสแตนเลส
อุ่นจนละลายหมด
2.ผสม 50% NaOH 160 มล+น้ำดื่ม 140 มล.คนให้เข้ากันเท ลงในหม้อน้ำมัน
กวนให้เข้ากัน 5-10 นาที สบู่เหนียวคล้ายนมข้น
3.เทสบู่ลงประมาณ 500-600 มล.ลงในถ้วยพลาสติกที่1
ผสมผงจันทร์เทศ 3 ชต. และ
ผงจันทร์เทศ 3 ชต. คนให้เข้ากัน 5-10 นาที ได้สีน้ำตาลเข็ม
4.เทสบู่ลงประมาณ 200-300
มล.ลงในถ้วยพลาสติกที่2 ผสมผงข้าวกล้องหอมมะลิ 3 ชต.
ใส่สีโอรสจนเห็นสีอ่อน(สีจะเปลี่ยนเป็นเหลืองอ่อน
เมื่อสบู่ได้ 12 ชม.)
5.สบู่ส่วนที่เหลือในหม้อสแตนเลสใส่สีเขียวจนเห็นสีเขียว
(สีจะเปลี่ยนเป็นเหลืองน้ำตาลอ่อน เมื่อสบู่ได้ 12 ชม.)
6. เทสบู่สีน้ำตาลเข็มลงในพิมพ์ เป็นพื้นล่าง
เทสีโอรส และเขียวสลับกัน
ใช้ไม้จิ้มลูกชิ้นทำลวดลายบนหน้าสบู่ โรยหน้าด้วย ผงจันทร์เทศ
7.ทิ้งไว้ 6-8 ชม. แกะสบู่ออกได้ง่ายๆ
8. นำสบู่ผึ่งไว้ในตะกร้า
ใช้ผ้าบางๆปิดกันฝุ่น ทิ้งไว้ 2-4 สัปดาห์ นำมาใช้ได้
ดูภาพประกอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น